AI กับอนาคตของ UI Designer: จากความตื่นเต้นถึงความจริงที่ต้องปรับตัว
-
ความตื่นเต้นแรกพบ: เมื่อ Figma เปิดตัว "Make Design" เครื่องมือ AI ที่ช่วย Generate งานออกแบบได้ในคลิกเดียว หลายคนรวมถึงผมเองถึงกับ "ว้าว" มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก.- ความเร็ว: สร้างหน้าจอ UI ได้ภายในไม่กี่วินาที- ความฉลาด: วาง Layout, เลือกสีสัน และจัดองค์ประกอบได้ค่อนข้างดีเลย- ความหวัง: นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้งานออกแบบง่ายขึ้น เร็วขึ้น (ตกงานแน่กรู 555).ช่วงนั้นหลายคน (รวมถึงผม) นับถอยหลังรอใช้ Demo แบบใจจดใจจ่อ คล้ายกับเด็กน้อยรอของเล่นชิ้นใหม่! กันเลยทีเดียว
-
ความจริงที่เจอ: และแล้ววันที่ได้ใช้ Demo ก็มาถึง มันเป็นอะไรที่ไม่ได้เหมือนกับที่เห็นวันเปิดตัวเลย เรียกได้ว่ายังห่างไกลจากความจริงหรือความสมบูรณ์แบบ.- สร้างงานได้แค่ทีละหน้า: ไม่มีการสร้าง Component ใด ๆ (จบ)- ขาดระบบ Design System: สร้างงานแบบสุ่มเอา ไม่มี Style guide, token ให้อ้างอิง- ไม่ตอบโจทย์งานจริง: เรียกได้ว่าเหมือนงานสำหรับส่งการบ้านมากกว่า ภายหลังเปลี่ยนชื่อจาก Make Design เป็น First Draft
-
ทำไม AI ยังแทนที่ UI Designer ไม่ได้?เพราะการออกแบบไม่ได้มีแค่ความสวยงามของ UI มันยังรวมไปถึงเรื่องของการจัดทำ Style Guide, Design System, Components ยังไม่รวมถึงความซับซ้อนของ Requirement ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ รวมถึงการเจรจาต่อรองในการออกแบบกับทีมอื่น ๆ ภายในองค์กร การ Emphaty ลูกค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ AI ยังไม่สามารถทำให้เราได้
- อนาคตของ UI Designer: AI จะไม่ใช่ "ผู้มาแทนที่" แต่เป็น "ผู้ช่วยขั้นเทพ" ที่เปลี่ยนวิธีการทำงานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ช่วยสร้างตัวอย่าง wireframe, ทดสอบเรื่องของสี, การใช้ข้อความที่เหมาะสม ตลอดจนการสร้างรูปภาพเพื่อนำมาใช้สำหรับออกแบบ
-
สรุป: อยู่รอดในยุค AI ต้องปรับทักษะอะไร?.
ทักษะด้าน Empathy, Creativity, การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ทักษะการควบคุม AI เรียนรู้การเขียน Prompt, รู้ข้อจำกัดของแต่ละเครื่องมือ
ทักษะการสื่อสาร สามารถนำเสนอไอเดียให้ทีมเข้าใจ และแปลง Feedback เป็นดีไซน์
."AI จะไม่แทนที่คุณ แต่คนที่ใช้ AI เป็นจะแทนที่คุณ"นักออกแบบที่รอดคือคนที่มอง AI เป็น "เพื่อนร่วมทีม" ไม่ใช่ "คู่แข่ง"